บทที่ 9 แค่บังเอิญหรือโชคชะตา (50%)

แหงดิ ก็เขาไม่ได้รักเมียเขาไม่ใช่เหรอ

วิ้ววววว งั้นเราก็มีหวังอะดี๊

เม้นท์อย่างไวไม่พอ ยังส่งสติ๊กเกอร์ดี๊ด๊าน่าหมั่นไส้มาอีก

ช่ายยยยย

เอ้า…พวกเรามาต่อคิวกรอกไปสมัคร 55555

หยุดมโนเถอะ ฉันว่าไม่มีใครเขาเอาพวกหล่อนหรอกย่ะ

คราวนี้เป็นทีของป้ากรรณิการ์ที่ตอกหน้าชะนีน้อยทั้งหลายจนหงายเงิบ

เขาก็ไม่เอาป้าเหมือนกันนั่นแหละจ้า

ระดับป้าไม่มีผัวก็ฟินได้จ้ะหลานๆ

พู่นแล่ว บู้ยวะ ป้ากันเจ้าซ่อยจะของตี้

ภาษาอีสานก็มา จากศจี สาวติสต์ผู้ชอบซุ่มดูเขาคุยกันอยู่เงียบๆ นานๆ ถึงจะโผล่หัวมาที

เฮ้ยๆๆๆ พวกเรา เซเลบมา กราบแบบย่อสามครั้ง พร้อมกันค่า

แล้วน้องศรีก็แซวคนที่เพิ่งโผล่มาเม้นท์ไปหนึ่งดอก

เซเลบที่ว่าก็คือศจีสาวติสต์ผู้มีโลกส่วนตัวสูงกว่าต้นตาลนั่นแหละ

สูเว้าหยังกันสู พิมพ์ภาษาไทยดู้ กูบ่รู้เรื่อง

คนที่ทำเหมือนไม่เข้าใจภาษาอีสาน แต่ดันพิมพ์ภาษาอีสานมาทั้งดุ้นซะงั้น

ก็เม้าท์เรื่องป้ากันช่วยตัวเองไง

นังศจีศรีดงกล้วยตบปากตัวเองเท่าอายุ บังอาจมาว่าป้ากันของช้าน ระดับป้าช็อปตุ๊กตาผัวเทพเว้ย

เอ้า…คุยกันดีๆ อย่าเพิ่งตีกัน

นั่นดิ ป้ากันมีไว้เคารพสักการะนะเว้ย อย่าไปว่าแกรรรรรร

เหมือนจะเข้าข้างป้ากรรณิการ์ แต่จริงๆ แล้วเย้าเสียมากกว่า เพราะหลังจากพิมพ์ประโยคที่เหมือนเป็นคนดีได้ไม่ทันไร แม่คุณก็ส่งสติ๊กเกอร์ ‘สวัสดีวันพุธ’ คืนให้ป้ากันหนึ่งดอกกรุบๆ

ไม่ได้ตีกันจ้า แค่หาทางออกให้พระเอกนิยาย 55555

น้องศรีเริ่มวกกลับเข้าประเด็นหลัก

จะว่าไป ชีวิตพระเอกนิยายก็เหมือนในนิยายอยู่เหมือนกันนะว่ามะ

หลังจากละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ก บูรณิมาก็ส่ายหน้าอย่างยิ้มๆ ให้กับความก๋ากั่นและโบ๊ะบ๊ะของแฟนนิยาย แต่ละคน ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ มุกเด็ดๆ เฟี้ยวๆ เพียบ แถมฝีไม้ลายมือในการตอบโต้คอมเม้นท์ยังเป็นเลิศ เรียกได้ว่าทันกันทุกช๊อต ตบมุกกันโครมๆ และจัดจ้านทุกวลีที่พิมพ์ลงไป

คอมเม้นท์ไหนอวยนิยายก็จะทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลม และมีกำลังใจ คอมเม้นท์แนะนำติเตียนเธอก็หยุดคิดพิจารณาตาม และตั้งมั่นว่าจะปรับปรุงให้เนื้อหานิยายสมบูรณ์และสอดคล้องมากยิ่งขึ้น

สัปดาห์ถัดมา บูรณิมาก็เข้ามาที่สำนักพิมพ์เพื่อมาคุยงานกับบก. ที่จริงการเป็นนักเขียนสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าสำนักพิมพ์ แค่ส่งอีเมลหรือโทรคุยกันก็ได้ แต่โปรเจกต์ใหม่ที่ทางสำนักพิมพ์วางไว้ทำให้เธอจำเป็นต้องมารับทราบถึงแนวทาง เนื่องจากนิยายที่ว่าไม่ใช่นิยายที่เธอเขียนเอง แต่เป็นนิยายที่เธอจะทำหน้าที่ผู้แปล

บูรณิมาไม่ได้เป็นแค่นักเขียน เธอยังเป็นนักแปล และผลงานที่สำนักพิมพ์จะให้แปลคราวนี้เป็นนิยายวายของจีนที่ซื้อลิขสิทธิ์มา นิยายที่ว่ามียอดวิวระดับพันล้าน เป็นนิยายฮอตแห่งปี แถมยังติดเทรนด์ของเว่ยปั๋วในทุกตอนที่นักเขียนอัพโหลดให้นักอ่านได้เข้าไปเสพความฟิน ความจิ้น และความมัน ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นชวนติดตามและแหวกแนวแบบสุดๆ ผสานกับบทรักฮาร์ดคอร์ของพระเอกกับนายเอก

“หวัดดีค่ะพี่จ๋า”

สาวน้อยเอ่ยทักทายเจ้าของร่างกำยำล่ำสันกล้ามเป็นมัดๆ ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าพริ้มเพราชวนมอง

“อืม…หวัดดี นั่งสิยายบี๋”

จักรกฤษณ์ พันรบ บรรณาธิการหนุ่มมาดตุ้งติ้ง เพราะใจเป็นหญิงเกินหุ่นล่ำๆ เอ่ยด้วยท่าทางเป็นกันเอง ก่อนจะพยักพเยิดไปยังหนังสือนิยายหกเล่มที่วางตั้งเทินกันอยู่ตรงหน้า

“เวอร์ชั่นจีน”

“ว้าว! ปกจีนสวยจังเลยค่ะ”

หญิงสาวหลุดอุทานตาโต พลางยกหนังสือเล่มบนสุดขึ้นพลิกไปมาด้วยท่าทีสนอกสนใจ รูปภาพหน้าปกสวยมากๆ ผู้วาดดึงคาแรกเตอร์พระเอกและนายเอกออกมาได้อย่างเด่นชัดลงตัว ตามต้นฉบับนิยายที่เธอได้อ่านมาบ้างแล้ว อันที่จริงเธอก็เห็นหน้าปกผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ มาแล้วแหละ แต่เมื่อได้มาเห็นของจริงกลับว้าวยิ่งกว่า

“แล้วปกไทยเสร็จยังคะ”

“เพิ่งได้ลิขสิทธิ์มาจะรีบไปไหนยะแม่คุณ หน้าปกไม่เท่าไหร่หรอกทำไม่นานก็เสร็จ แต่เนื้อหาน่ะต้องพึ่งเธอนะนังหนูบี๋ ฉันขอสั่งว่าหลังจากนี้ห้ามอู้เด็ดขาด”

“หูยยยย เข้าตัวเลยอะ”

บูรณิมาทำหน้ายู่เมื่ออยู่ๆ ก็ดันเข้าตัวซะงั้น

“ใต้ตาคล้ำมากเลยแก ช่วงนี้ไม่ได้นอนหรือไง”

หลังจากหรี่ตาจ้องหน้าเธอเขม็งอีกฝ่ายก็เอ่ยถาม

“อืม ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้าหงึกๆ ลูบๆ คลำๆ หน้าปกนิยายตรงหน้าแล้วเอ่ยต่อ “ถ้าเป็นห่วงน้อง พี่จ๋าก็อย่าเร่งต้นฉบับนักสิคะ บี๋ปั่นงานจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยเนี่ย”

สาวน้อยตาโตแก้มป่องเอ่ยอย่างอ้อนๆ น่ารักน่าเอ็นดูเสียจนคนมองหลุดยิ้ม

“กินไม่ได้อะไรยะ ก่อนเข้ามาฉันยังเห็นหล่อนวิ่งปรู๊ดไปต่อคิวซื้อเบเกอรี่ด้วยท่าทางดี๊ด๊าน่าหยิกให้แก้มแตกอยู่เลย”

สาวสองยื่นมือมาบีบแก้มนุ่มๆ ของนักเขียนในสังกัดที่ตนรักและเอ็นดูประดุจน้องสาวในไส้ เล่นเอาคนถูกรู้ทันหัวเราะแหะๆ แก้เก้อ

“บี๋ใช้สมองหนักนี่นาก็ต้องบำรุงกันหน่อยสิ” แม่สาวแก้มกลมตัวนุ่มฟูทำปากยื่นอุบอิบแก้ตัวชวนมันเขี้ยว แล้วเอ่ยต่อ “แบบว่า…เวิร์คฮาร์ด อีทฮาร์ด ไงคะ”

“ย่ะแม่คุณ ฉันว่าแกคลั่งกินมากกว่า”

“พี่จ๋าอะ รู้ทันน้องอีกแล้ว”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป